วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สวัสดีปีใหม่



วันขึ้นปีใหม่
          ในอดีต วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว 4 ครั้งคือ ครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง ตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน
          การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็น วันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก สมควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นใน กรุงเทพฯเป็นครั้งแรก
          การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆมา และในปี พ.ศ.2479 ก็ได้มีการ จัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์
          ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นไป
          เหตุผลที่ทางราชการได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากวันที่ 1 เมษายนมาเป็นวันที่ 1 มกราคม ก็คือ
          1. ไม่ขัดกับพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ
          2. เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมพระพุทธศาสนา
          3. ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก
          4. เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย

          กิจกรรมที่ชาวไทยส่วนใหญ่มักจะยึดถือปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ได้แก่
          1. การทำบุญตักบาตร โดยอาจตักบาตรที่บ้าน หรือไปที่วัดหรือตามสถานที่ต่างๆที่ทางราชการเชิญชวนไปร่วมทำบุญ
          2. การกราบขอพรจากผู้ใหญ่ และอวยพรเพื่อนฝูง การมอบของขวัญ การมอบช่อดอกไม้ หรือการส่งบัตรอวยพร
          3. การจัดงานรื่นเริง การจัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือตามหน่วยงานต่างๆ

          วันขึ้นปีใหม่นับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้ทบทวนถึงการดำเนินชีวิตในอดีต เพื่อจะได้แก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ดีขึ้น


  





เมื่อใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนจะพากันเก็บกวาดบ้านเรือนให้สะอาด ประดับไฟและธงชาติตามสถานที่สำคัญ ๆ
          ครั้นถึงวันที่ 31 ธันวาคม ก็จะมีการทำบุญเลี้ยงพระ ไปวัด เพื่อประกอบกิจกุศลต่าง ๆ เช่น ฟังพระธรรมเทศนา ถือศีลปฏิบัติธรรม แต่บางคนก็แค่ทำบุญตักบาตร   ตอนกลางคืนบางแห่งอาจจัดเทศกาลกินเลี้ยงเป็นที่ครื้นเครงสนุกสนาน  เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
          เช้าวันที่ 1 มกราคม จะมีการทำบุญตักบาตร ไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ผู้ที่เคารพนับถือ มีการมอบของขวัญและบัตรอวยพรให้แก่กัน
          สำหรับในต่างจังหวัด จะมีการทำบุญเลี้ยงพระที่วัด และอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ญาติที่ล่วงลับ กลางคืนมีการละเล่นพื้นบ้านหรือจัดมหรสพมาฉลอง




ส่งปีเก่า รับปีใหม่
ทิฆัมพรเคลือบแสงทอง ณ ยามรุ่ง
แดดทอรุ้งกรุ่นไอมไหศวรรย์
ชนร่วมงานตักบาตรบุญอนันต์
โรจน์จรัลปรมัตถบารมี

ส่งปีเก่ารับปีใหม่มไหศก
พร้อมยอยกอายุศาสน์ปราชญ์ชินสีห์
ตั้งจิตมั่นสร้างบุญสร้างกรรมดี
เส้นทางนี้สู่สวรรค์สรรนิพพาน

มงคลฤกษ์อัญเชิญเทพทุกชั้นฟ้า
องค์อินทราพรหมบดินทร์ปิ่นไพศาล
จตุท้าวคนธรรพ์เทพยมบาล
นาคบาดาลแลครุฑดุจเทวา

ขออัญเชิญพระสยามเทวาราช
นฤมาศปกชาติศาสนา
ร่วมเปล่งเสียงสาธุการโมทนา
เทิดบูชาพระไตรรัตน์สวัสดี

งามเรืองรองเหลืองทองผ้ากาสาวพัสตร์
พระโปรดสัตว์เหล่าประชาพาสุขศรี
งานตักบาตรพุทธประเพณี
บุญทวีศรีทรัพย์นับอนันต์

ขอเชิญเหล่าสาธุชนจงจงน้อมจิต
กลั่นนิมิตดวงแก้วอย่างสุขสันต์
สนิทนิ่งระลึกคุณบุญอนันต์
ได้สร้างสรรสั่งสมตลอดปี

บุญธุดงธ์แลอัญเชิญสี่จักรแก้ว
งามเพริศแพร้วเทพไท้เป็นสักขี
สู่วิหารพระมงคลเทพมุนี
คู่ธานีศรีสวัสดิ์พิพัฒน์ชัย

มหาบุญยิ่งใหญ่ในครานี้
จงเปรมปรีดิ์ศรีสุขทุกสมัย
พุทธศาสน์สืบทอดตลอดไป
อยู่คู่ไทยคู่ชาติราษฎร์ประชา

ด้วยอำนาจพุทธาอันศักดิ์สิทธิ์
จงลิขิตให้ทุกท่านสุขหรรษา
ให้สบโชคปลอดภัยไร้โรคา
ชนทั่วหล้านับถือชื่อเกรียงไกล

คิดสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ
ทรัพย์ทั้งเจ็ดหนุนเนื่องทุกสมัย
แม้นกำเนิดเกิด ณ ที่แห่งใด
ให้พบไตรสรณะชำระมาร

อันพรใดใครว่ายอดในไตรภพ
จงประสบพรเลิศประเสริฐศานต์
ให้ร่ำรวยด้วยทรัพย์ศฤงคาร
ตราบชั่วกาลสราญรื่นชื่นฤดี

ให้ชื่อเสียงเกรียงไกรมไหศักดิ์
ใครพบพักตร์เกรงใจในศักดิ์ศรี
ให้ปัญญาล้ำเลิศพันทวี
ถ้อยวาทีเป็นที่รักประจักษ์ชน

ขออำนาจเทพไท้เทวาฤทธิ์
จงสถิตคุ้มครองทุกข์แห่งหน
แม้นเดินทางถิ่นใดไร้กังวล
ประสบผลเรื่องโรจน์โชตินิรันดร์


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น